การทำ VPN บน Linksys RV042 แบบ Site to Site

อุปกรณ์ VPN / Load Balanced Router รองรับการทำงาน IPSec VPN 50 ช่อง (50 Tunnels), VPN Client Access 50 บัญชี, PPTP 5 บัญชี มาพร้อมด้วย 4 พอร์ท 10/100 Mbps เชื่อมต่อ ADSL ได้ 2 ลิงค์, สามารถควบคุมความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เหมาะสำหรับเชื่อมต่อระหว่างโรงงาน กับสำนักงานสาขา และผมก็ใช้มันทำ VPN อยู่ในขณะนี้ วันนี้ผมจะมาแนะนำการติดตั้ง PVN บน Linksys RV042 กัน



อันดับแรกกำหนดค่าเกี่ยวกับ IP Address และ ISP ก่อน ค่ามาตรฐานโดยทั่วไปในการเข้าไป Set ค่าต่างๆ ของเตอร์นั้น ใช้ IP 192.168.1.1 ใส่ User name และ Password ของระบบ แล้วเลือกที่ Setup กำหนดค่า

 IP address ของ RV042 ผมก็เปลี่ยนจาก 192.168.1.1/24 เป็น 192.89.1.254/24 โปรโตคอล แบบ PPPoE ใส่ User name และ Password ซึ่่งผมใช้บริการกับ CSloxinfo แบบ FIX IP ครับ เสร็จแล้วก็กด Save Settings ไปจากนั้นไปที่เมนู VPN แล้วเลือกที Gateway to Gatway สร้าง Tunnel สำหรับเชื่อมต่อไปยังเน็ตเวิร์กอีกฝั่ง


 จากรูปน่ะครับ ผมตั้งชื่อการเชื่อมต่อว่า bangbo to cordial ส่วน Interface ใช้ Port WAN1 จากค่าที่กำหนดก่อนหน้านี้
-  Local Security Gateway Type  เป็นไอพี่ที่ได้รับจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ถึงตรงนี้ถ้าเราตั้ง WAN1 อย่างถูกต้อง ไอพีจะแสดงขึ้นมาอัตโมัติไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นไอพีจริงตรงตามข้อตกลงที่ขอใช้บริการ 53.136.23.xx
    IP address คือ Network ID ของเครือข่ายภายในเป็น 192.89.1.0
    Subnet Mask : 255.255.255.0

- Remote Security Gateway Type เป็นไอพีที่ต้องการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับเน็ตเวิร์กนี้ ไอพีดังกล่าวเป็นไอพีจริงเช่นกัน เป็น58.136.23.xx 
    IP address คือ Network ID ของเครือข่ายที่เราต้องการจะ VPN ไปหาซึ่งกำหนดเป็น 192.89.0.0
    Subnet Mask : 255.255.255.0 เช่นเดียวกัน

ส่วน IPSec setup ตามรูปเลยน่ะครับ ค่าที่สำคัญคือ Preshared Key ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งต้องตั้งให้เหมือนกัน ไม่งั้นในเรื่องของ Secure จะไม่ผ่าน เสร็จแล้วก็ Save settings
ทดสอบการเชื่อมต่อโดยใช้ คำสั่ง ping
ping จาก Local ไปยังเครื่อข่ายที่ทำเชื่อมต่อแบบ VPN


ทดสอบจากอีกฝั่ง

ถ้าทั้ง 2 ฝั่งใช้ Linksys RV042 ก็เซ็ตค่าเหมือนกันเพียงแต่สลับค่า Local กับ Remote แต่ที่ผมใช้อยู่ฝั่งหนึ่งเป็น RV042 อีกฝั่งเป็น pfSense ก็ OK

0 comments:

Post a Comment

 

Pfsense Thailand Copyright © 2011-2012 | Powered by Blogger